ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
โสมไซบีเรียหรือที่รู้จักกันในชื่อ eleuthero เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการปรับตัว ซึ่งหมายความว่าช่วยให้ร่างกายปรับตัวและรับมือกับความเครียดได้
การใช้และประโยชน์ของสารสกัดจากโสมไซบีเรียมีดังนี้:
บรรเทาความเครียดและความเหนื่อยล้า: สารสกัดจากโสมไซบีเรียมักใช้เพื่อช่วยลดความเครียดและต่อสู้กับความเหนื่อยล้าเชื่อกันว่าจะช่วยกระตุ้นต่อมหมวกไตให้ผลิตคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย
การเพิ่มพลังงานและความอดทน: เนื่องจากคุณสมบัติในการปรับตัว สารสกัดจากโสมไซบีเรียจึงคิดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกายและจิตใจอาจช่วยเพิ่มระดับพลังงาน เพิ่มความอดทน และลดความรู้สึกเหนื่อยล้า
การสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน: เชื่อกันว่าสารสกัดจากโสมไซบีเรียมีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม ซึ่งอาจช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของการติดเชื้อและการเจ็บป่วยได้
การทำงานของการรับรู้และสุขภาพจิต: การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากโสมไซบีเรียสามารถปรับปรุงการทำงานของการรับรู้ ความจำ และสุขภาพจิตโดยรวมได้นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อการรักษาอารมณ์และช่วยในการจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ: สารสกัดจากโสมไซบีเรียมีสารประกอบที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เช่น อีลูเทโรไซด์ และฟลาโวนอยด์สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย
การสนับสนุนด้านสุขภาพทางเพศ: การใช้สารสกัดโสมไซบีเรียแบบดั้งเดิมบางอย่างรวมถึงการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศและภาวะเจริญพันธุ์อย่างไรก็ตาม, การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลกระทบของมันในเรื่องนี้มีจำกัด, และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลประโยชน์เหล่านี้โดยสรุป.
ประสิทธิภาพทางกายภาพ: สารสกัดจากโสมไซบีเรียเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาและผู้ชื่นชอบกีฬาเนื่องจากมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพเชื่อกันว่าจะช่วยปรับปรุงการใช้ออกซิเจน ความทนทานของกล้ามเนื้อ และประสิทธิภาพการกีฬาโดยรวม
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ แม้ว่าสารสกัดโสมไซบีเรียโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แต่ก็อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด หรือส่งผลเสียต่อผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางประการได้ก่อนที่จะเริ่มอาหารเสริมหรือยาสมุนไพรใหม่ ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ
พื้นที่จัดเก็บ
เก็บในภาชนะที่ปิดสนิทในที่เย็นและแห้งป้องกันแสง ความชื้น และแมลงรบกวน
อายุการเก็บรักษา
2 ปีเมื่อจัดเก็บอย่างเหมาะสม